ขนย้ายบ้านอย่างไร ไม่ให้สัตว์เลี้ยงเครียด

ขนย้ายบ้านอย่างไร ไม่ให้สัตว์เลี้ยงเครียด

เรียนรู้วิธีลบความเครียดออกจากสัตว์เลี้ยง ให้การขนย้ายบ้านเป็นแค่เรื่องชิลๆ

ขนย้ายบ้าน

การย้ายบ้านมักเป็นเรื่องใหญ่ที่เจ้าของบ้านมักจะมีความกังวลใจโดยเฉพาะการขนย้ายของใช้ภายในบ้านแต่ไม่ใช่แค่เจ้าของบ้านเท่านั้นหากบ้านไหนมีสัตว์เลี้ยง เจ้าสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักก็มักจะมีความกังวลใจไปด้วยเหมือนกันเมื่อสัตว์เลี้ยงเองก็เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในบ้านอาจทำให้สัตว์เลี้ยงมีความกังวลใจและส่งผลให้เกิดความเครียดได้ในที่สุด

ขนย้ายบ้านอย่างไร ไม่ให้สัตว์เลี้ยงเครียด

การลดความกังวลใจและความเครียดของสัตว์เลี้ยงจึงมีความสำคัญมากสำหรับเจ้าของบ้าน เพราะโดยส่วนใหญ่สัตว์เลี้ยงมักจะคุ้นชินกับที่ที่เคยอยู่ หากต้องมีการย้ายบ้านก็ต้องเปลี่ยนแปลงที่อยู่ใหม่ รวมถึงการขนย้ายบ้านต้องมีการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์และของใช้ของสัตว์เลี้ยงด้วยเหมือนกันซึ่งอาจทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้นเจ้าของบ้านต้องหาวิธีในการขนย้ายบ้าน และขนย้ายเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด 

วิธีรับมือกับความเครียดของสัตว์เลี้ยงแสนรักเมื่อต้องขนย้ายบ้าน เจ้าของบ้านต้องเรียนรู้วิธีการลดเครียดของสัตว์เลี้ยงเพื่อให้การขนย้ายบ้านไม่มีปัญหาและไม่ให้เกิดความเครียดทั้งเจ้าของบ้านเองและสัตว์เลี้ยงแต่ในบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีที่ใช้ลดเครียดเมื่อย้ายบ้านสำหรับสุนัขและแมวซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมและมักจะเกิดความเครียดได้มากที่สุดเมื่อต้องย้ายบ้าน 

การเตรียมตัวสัตว์เลี้ยงก่อนการขนย้ายบ้าน

  1. ก่อนการขนย้ายบ้าน 2-3 สัปดาห์ควรพาสัตว์เลี้ยงไปทำความรู้จักกับที่อยู่ใหม่ สัตว์เลี้ยงจะได้ทำการสำรวจทั้งภายในและภายนอกบ้านเพื่อให้สัตว์เลี้ยงสร้างความคุ้นเคยกับบ้านใหม่ ซึ่งเจ้าของสามารถอุ้มสัตว์เลี้ยงก่อนก็ได้หากเป็นครั้งแรกที่พาสัตว์เลี้ยงไป(หากสัตว์เลี้ยงมีขนาดเล็กที่อุ้มได้) และหลังจากนั้นควรพาสัตว์เลี้ยงไปเยี่ยมบ้านใหม่บ่อยๆ จะช่วยให้เกิดความคุ้นเคยกับบ้านใหม่ได้เร็วขึ้น 

  2. สัปดาห์ก่อนขนย้ายบ้านเจ้าของบ้านอาจเปลี่ยนกลิ่นของบ้านหลังเก่าโดยอาจใช้สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นใหม่ฉีดภายในบ้านหลังเก่าเพื่อให้สัตว์เลี้ยงคุ้นเคยกับกลิ่น เมื่อย้ายบ้านไปบ้านหลังใหม่ก็ใช้สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นนี้ฉีดที่บ้านหลังใหม่เพื่อให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกคุ้นเคยกับบ้านหลังใหม่เร็วขึ้น สำหรับแมวอาจใช้ฟีโรโมนของแมวโดยใช้ผ้านุ่มๆ ถูเบาๆที่บริเวณแก้มของแมวเพื่อเก็บกลิ่นจากต่อมบริเวณใบหน้า และนำไปถูตามประตู หน้าต่าง กำแพง ความสูงเท่าขนาดแมวเมื่อเราพาแมวไปเยี่ยมบ้านใหม่ก่อนการเข้าอยู่จริงแมวจะได้รู้สึกคุ้นเคย เมื่อย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหม่แมวจะรู้สึกปลอดภัยและคุ้นเคยกับบ้านใหม่ได้เร็วขึ้น

  3. ควรปรีกษาสัตวแพทย์ประจำตัวของสัตว์เลี้ยงหากเจ้าของบ้านมีความกังวลเกี่ยวกับความเครียดของสัตว์เลี้ยงในการขนย้ายบ้านเพื่อให้สัตวแพทย์แนะนำวิธีรับมือความเครียดของสัตว์เลี้ยง หรืออาจจะพูดคุยกับสัตวแพทย์เรื่องยาลดความเครียดหรือยาชนิดอื่นๆ ที่ช่วยให้สัตว์เลี้ยงลดความเครียดได้เพราะบางครั้งสัตว์เลี้ยงบางตัวอาจมีความตื่นกลัวจนไม่สามารถควบคุมได้ และควรตรวจสุขภาพ เพื่อเช็คความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจของสัตว์เลี้ยง และฉีดวัคซีนของสัตว์เลี้ยงให้ครบก่อนย้ายบ้าน 

  4. ทำกิจวัตรให้เหมือนเดิมถึงแม้เจ้าของบ้านจะยุ่งกับการเตรียมตัวขนย้ายบ้านมากแค่ไหนแต่ควรพยายามทำกิจวัตรประจำวันที่มีต่อสัตว์เลี้ยงให้เหมือนเดิม เช่น เวลาเล่น เวลาให้อาหาร เพื่อให้สัตว์เลี้ยงไม่รู้สึกกับการเปลี่ยนแปลงและเกิดการกังวลใจ 

  5. ทำให้สัตว์เลี้ยงคุ้นเคยกับการเดินทางสำหรับสัตว์เลี้ยงบางตัวเจ้าของบ้านอาจจะไม่ค่อยได้พาออกไปนอกบ้าน อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับการอยู่ในกรงหรือนั่งรถดังนั้นเจ้าของบ้านควรให้สัตว์เลี้ยงทำความคุ้นเคยกับการอยู่ในกรงสัตว์เลี้ยง โดยอาจลองให้อยู่ในกรงก่อนอาจจะนำผ้ามาคลุมกรงเพื่อให้มีความเป็นส่วนตัวและลดอาการตื่นกลัว และเตรียมอาหารและน้ำไว้ในกรงในกรณีที่บ้านใหม่อยู่ห่างไกลจากบ้านเก่า และลองเอากรงวางบนรถและขับรถไปข้างนอกเพื่อให้สัตว์เลี้ยงเรียนรู้ว่าการเดินทางบนรถมีลักษณะอย่างไร เมื่อเดินทางจริงสัตว์เลี้ยงจะได้ไม่ตื่นกลัวมากเกินไป  

ความพร้อมของสัตว์เลี้ยงสำหรับวันขนย้ายบ้าน และย้ายเข้าบ้านใหม่

 ขนย้ายบ้านอย่างไร ไม่ให้สัตว์เลี้ยงเครียด

  1. จัดเตรียมมุมสงบไว้ในบ้านที่จะต้องทำการขนย้ายสำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อไม่ให้สัตว์เลี้ยงกังวลและตื่นกลัวกับคนแปลกหน้าที่จะมาขนย้ายบ้าน โดยติดประกาศไม่ให้ใครเข้ามาในบริเวณนี้เพื่อให้สงบมากที่สุด

  2. ควรให้อาหารสัตว์เลี้ยงตามเวลาปกติเพื่อไม่ให้เกิดความเครียด โดยควรให้กินก่อนเดินทาง 3 ชั่วโมง

  3. ในการขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ควรขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นของสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งสุดท้ายเพื่อที่สัตว์เลี้ยงจะได้ถูกขนย้ายพร้อมข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ โดยที่ไม่ต้องรอ

  4. การขนย้ายสัตว์เลี้ยงควรให้สัตว์เลี้ยงเดินทางไปกับรถที่เจ้าของบ้านนั่งหรือหากมีความจำเป็นที่ต้องให้สัตว์เลี้ยงเดินทางไปกับรถขนย้ายบ้านควรมีผ้าคลุมกรงเพื่อไม่ให้สัตว์เลี้ยงตื่นกลัว 

  5. หากวันที่ขนย้ายบ้านเป็นวันที่มีอากาศร้อนควรตรวจสอบจุดที่วางกรงของสัตว์เลี้ยงว่ามีอุณหภูมิที่ร้อนเกินไปไหม ส่วนใหญ่สัตว์เลี้ยงขนาดเล็กไม่ค่อยมีปัญหาเพราะสามารถเอากรงไว้ในรถได้ 

  6. กรณีที่บ้านหลังเก่าอยู่ไกลจากบ้านใหม่มากในการขนย้ายบ้านควรมีการพักระหว่างทางเพื่อให้อาหารกับน้ำต่อสัตว์เลี้ยง

  7. สำหรับบ้านหลังใหม่ควรจัดเตรียมพื้นที่แบบถาวรเพื่อกำหนดอาณาเขตสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะเพื่อเป็นการสร้างพื้นที่ส่วนตัวให้สัตว์เลี้ยงและสร้างวินัยให้เกิดในสัตว์เลี้ยง 

  8. เมื่อถึงบ้านใหม่ควรขนย้ายข้าวของเครื่องใช้สำหรับสัตว์เลี้ยงลงมาก่อนเพื่อที่จะได้ติดตั้งใว้ในบริเวณของสัตว์เลี้ยงที่เราเตรียมไว้และปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดก่อนจนกว่าจะขนย้ายบ้านเสร็จ 

  9. เมื่อขนย้ายบ้านเสร็จแล้วควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงได้ทำการสำรวจบ้าน และทำความคุ้นเคยกับบ้านใหม่ให้มากยิ่งขึ้นแต่ควรระวังสัตว์เลี้ยงจะไปหลบตามซอกแคบๆ หรือไปกัดสายไฟหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า

  10. ปัญหาใหญ่สำหรับสัตว์เลี้ยงที่ย้ายเข้ามาบ้านใหม่คือการไม่ยอมอึ และฉี่ สามารถแก้ปัญหาได้โดยนำถาดห้องน้ำของสัตว์เลี้ยง(ถ้าแมวก็คือกะบะทราย)ที่มีกลิ่นฉี่เดิมของสัตว์เลี้ยงมาวางในมุมที่เงียบสงบ หรือวางไว้ในอาณาเขตของสัตว์เลี้ยงที่เตรียมไว้เมื่อได้กลิ่นที่คุ้นเคยก็จะสามารถอึ ฉี่ ได้เป็นปกติ

  11. เมื่อย้ายเข้ามาบ้านใหม่ควรทำกิจวัตรประจำวันเหมือนที่เคยทำให้เพื่อให้สัตว์เลี้ยงไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง และเมื่อสัตว์เลี้ยงเริ่มคุ้นเคยกับบ้านใหม่จึงค่อยๆ เพิ่มกิจกรรมใหม่ๆ เข้าไป 

  12. เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านหากยังเป็นเฟอร์นิเจอร์เก่าจะช่วยให้สัตว์เลี้ยงปรับตัวให้ชินได้ง่ายขึ้นเพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม

  13. ในช่วง 3 สัปดาห์แรกควรให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านก่อนเพื่อให้คุ้นเคยกับบ้านใหม่ และเพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงเพราะหากสัตว์เลี้ยงออกไปเจอสภาพแวดล้อมใหม่อาจจะไม่คุ้นเคยจนทำให้หลงทาง และไม่สามารถหาทางกลับบ้านเองได้ แต่ถ้าเจ้าของบ้านอยากให้สัตว์เลี้ยงออกไปสูดอากาศข้างนอกหรือออกกำลังกายก็ควรมีสายจูงเพื่อจะได้ควบคุมสัตว์เลี้ยงได้

  14. โดยปกติหลังจากสัตว์เลี้ยงย้ายบ้านแล้ว สัตว์เลี้ยงจะใช้เวลาในการปรับตัวประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งหลังจาก 3 สัปดาห์ เจ้าของบ้านควรมีการตรวจเช็คสภาพจิตใจของสัตว์เลี้ยง ถ้ามีอาการเบื่ออาหาร ไม่ร่าเริง อาจพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาสิ่งผิดปกติ


การขนย้ายบ้านพร้อมสัตว์เลี้ยงจะต้องมีการเตรียมความพร้อมและวางแผนล่วงหน้าก่อนการขนย้ายบ้านเพื่อให้การย้ายบ้านดำเนินไปได้อย่างราบรื่นเพื่อไม่ให้เจ้าของบ้านและสัตว์เลี้ยงเกิดความเครียด ดังนั้นการเลือกบริษัทที่จะมาเป็นผู้ช่วยในการขนย้ายนั้นจึงมีความสำคัญมากสำหรับเจ้าของบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงเพราะต้องอาศัยความเข้าใจและประสบการณ์ในการขนย้ายบ้านจึงจะทำให้การขนย้ายบ้านสำเร็จลุล่วงโดยไร้ปัญหา 

Good move Professional Movers เป็นผู้นำด้านบริการขนย้ายแบบครบวงจร เช่น ขนย้ายบ้าน ขนย้ายสำนักงาน ขนย้ายเครื่องจักรกลโรงงาน รวมไปถึงการขนส่งสินค้าและกระจายสินค้า โดยให้บริการทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ในราคาที่คุ้มค่า พร้อมการบริการที่น่าประทับใจ

 

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.goodmove-th.com
โทร : 0-2114-7574
แฟกซ์ : 0-2100-4773
E-mail : info@goodmovethailand.com
Lind ID : @goodmove ( มี @ ข้างหน้า )
Facebook Inbox : https://m.me/1653262334889316


Visitors: 1,673,319